หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2556

ละครชีวิต วัดเลาขวัญ

ละครชีวิต


 

clip_image002ทุกชีวิตที่เกิดมาเหมือนกับละครเรื่องหนึ่ง แต่เป็นละครแห่งชีวิตที่ต้องแสดงจริง รับบทจริง เมื่อเกิดมาอยู่บนโลกใบนี้แล้วถูกสวมบทบาทให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ให้เป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นลูก เป็นพี่ เป็นน้อง เป็นสามี เป็นภรรยา และเป็นอะไรอีกมากมาย ทุกคนได้แสดงบทบาทนั้นๆ ของตนเองในฐานนักแสดงนำ ต่างร่ายรำตามบทบาทของตนจนกระทั่งสิ้นลมหายใจ นั่นหมายถึงละครแห่งชีวิตจบลง เป็นการอวสานบทบาทต่างๆ ไปชั่วนิรันดร์ ไม่ได้กลับมาแสดงบทบาทให้ได้เห็นอีกแล้ว ดังที่หลวงตาแพรเยื่อไม้ได้ประพันธ์ไว้ว่า...

“โลกนี้เหมือนดังละคร ปวงนิกรเราท่านเกิดมา

ต่างร่ายรำทำทีท่า ตามลีลาของบทละคร

บางครั้งเศร้า บางคราวก็สุข บางทีก็ทุกข์ หัวอกสะท้อน

มีรัก มีร้าง มีจาก มีจร พอจบละคร ชีวิตก็ลา จากโลกนี้ไปด้วย”

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ เมื่อได้รับบทบาทใดๆ แล้วได้แสดงบทบาทนั่นอย่างจริงจังหรือไม่ เป็นที่ประทับใจผู้ชมหรือไม่ ถ้าแสดงบทบาทที่ได้รับไม่ประทับใจผู้ชมหรือทำให้ผู้ชมผิดหวัง ก็เหมือนเกิดมาชาติหนึ่งไร้คุณค่าของชีวิต แต่ตรงกันข้ามหากแสดงบทบาทต่างๆ ได้ประทับใจผู้ชม บทบาทของนักแสดงก็จะอยู่ในใจของผู้ชมไปอีกนาน

ละครชีวิตนี้ สะท้อนให้เห็นว่าทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย เกิดมาทำหน้าที่ของคนดีไม่ดีสุดท้ายก็ทิ้งหน้าที่นั้นไป เกิดมามีคนรักมากมาย มีสมบัติมากมายสุดท้ายก็ไปแต่ตัว เกิดมามีคนรัก คนชั่ง สุดท้ายก็แยกจากกันไป ทั้งสมบัติและความรู้สึกดีหรือชั่วของกันและกัน ไม่มีใครเอาไปให้เลย ดังสัจธรรมที่ได้ประพันธ์ไว้ว่า...

“เมื่อเจ้ามา มีอะไรมาด้วยเจ้า

เจ้าจะเอา แต่สุข สนุกไฉน

เมื่อเจ้ามามือเปล่า เจ้าจะเอาอะไร

เจ้าก็ไปมือเปล่า เหมือนเจ้ามา”

คนเราเกิดมาเจอกัน ทำให้รักกัน ให้เกลียดกัน แล้วก็จากกัน แค่นี้จริงๆ

จากหนังสือ  อาหารยามเช้า  โดย  มหาวีโร  ภิกฺขุกาญจฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น